Danh mục: th

ปรับบุคลิกให้ดีเพียงแค่7 ท่า!

ปร บบ คล กให ด เพ ยงแค 7 ท า

ปรับบุคลิกให้ดีเพียงแค่ 7 ท่า! เพียงแค่เราฝึกท่าต่างๆ ที่ต่อไปนี้บ่อยๆ บุคลิกของเราก็จะดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน ยืนหลังตรง การยืนหลังตรงช่วยให้บุคลิกภาพดูดีขึ้นทันที ยืดตัวขึ้น เกร็งหน้าท้องเล็กน้อย และดันไหล่ไปด้านหลังจนสุด อย่าลืมอายัดแขนและขาให้อยู่ในท่าที่เหมาะสม ไม่งอหรือแอ่นจนเกินไป นั่งหลังตรง การนั่งหลังตรงก็สำคัญไม่แพ้การยืนหลังตรง นั่งหลังตรงโดยให้ก้นชิดเบาะ เก้าอี้ และหลังชิดพนักพิง เกร็งท้องน้อยและดันไหล่ไปด้านหลังเล็กน้อย แล้ววางเท้าแตะพื้นทั้งสองข้าง เดินอย่างมั่นใจ การเดินอย่างมั่นใจคือการเดินที่ตรงและมองไปข้างหน้า ก้าวเท้าอย่างมั่นคงและแน่วแน่ ไม่เก้ๆ กังๆ หรือเดินช้าเกินไป ยิ้มแย้มอยู่เสมอ การยิ้มแย้มอยู่เสมอช่วยให้บุคลิกภาพดูดีขึ้นได้มาก เพราะรอยยิ้มทำให้เราดูเป็นคนที่เข้าถึงง่าย เป็นมิตร และน่ามองมากยิ่งขึ้น สบตากับคู่สนทนา การสบตากับคู่สนทนาแสดงให้เห็นว่าเรากำลังตั้งใจฟังและให้ความสนใจในสิ่งที่เขากำลังพูดอยู่ ซึ่งจะทำให้เราดูเป็นคนที่ฉลาดและน่าเชื่อถือ พูดจาชัดเจน การพูดจาชัดเจนและน่าฟังทำให้เราดูเป็นคนที่ฉลาดและมีการศึกษา ทั้งยังช่วยให้คนอื่นเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการสื่อสารได้ดีขึ้น แต่งกายสุภาพ การแต่งกายสุภาพเหมาะสมกับสถานการณ์และกาลเทศะช่วยให้เราดูเป็นคนที่น่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพ ซึ่งจะทำให้บุคลิกภาพของเราดียิ่งขึ้น หากหมั่นฝึกปฏิบัติตามท่าต่างๆ เหล่านี้บ่อยๆ รับรองว่าบุคลิกภาพของเราจะดีขึ้นจนใครๆ ก็ต้องเหลียวมองแน่นอน

ลดน้ำหนักฉบับคนขี้เกียจ แบบถาวร ด้วย If 16/8 เห็นผล100%

ลดน ำหน กฉบ บคนข เก ยจ แบบถาวร ด วย If 16 8 เห นผล100

ลดน้ำหนักฉบับคนขี้เกียจ แบบถาวร ด้วย If 16/8 เห็นผล 100% If 16/8 คือวิธีลดน้ำหนักที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นวิธีที่ทำตามได้ง่าย ไม่ต้องอดอาหารหรือออกกำลังกายหนักๆ ก็สามารถลดน้ำหนักได้อย่างได้ผล หลักการของ If 16/8 คือการจำกัดเวลาการรับประทานอาหารให้เหลือเพียง 8 ชั่วโมงต่อวัน และอดอาหารในช่วงเวลาที่เหลือ 16 ชั่วโมง โดยในช่วงเวลาที่รับประทานอาหารนั้น สามารถรับประทานอาหารอะไรก็ได้ตามต้องการ แต่ควรเน้นรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อไม่ติดมัน ธัญพืชไม่ขัดสี และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง วิธีลดน้ำหนักฉบับคนขี้เกียจด้วย If 16/8 เลือกช่วงเวลาอดอาหารให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เช่น บางคนอาจเลือกอดอาหารตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน หรือบางคนอาจเลือกอดอาหารตั้งแต่ 12.00น. ถึง 20.00น. เป็นต้น ในช่วงเวลาที่รับประทานอาหารนั้น สามารถรับประทานอาหารอะไรก็ได้ตามต้องการ แต่ควรเน้นรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อไม่ติดมัน ธัญพืชไม่ขัดสี และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง ดื่มน้ำเปล่าให้มากในช่วงเวลาที่อดอาหาร โดยเฉพาะในช่วงเวลาเช้าหลังจากที่ตื่นนอน […]

ออกกำลังกายง่ายๆปั้นหุ่นสวยปัง

ออกกำล งกายง ายๆป นห นสวยป ง

ออกกำลังกายง่ายๆปั้นหุ่นสวยปัง การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะวัยไหน เพศไหน ก็ควรออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและสุขภาพดี นอกจากการออกกำลังกายจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อแล้ว ยังช่วยลดน้ำหนัก ลดไขมัน ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น สำหรับใครที่อยากมีหุ่นสวยปัง การออกกำลังกายก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน แต่การออกกำลังกายแบบหนักๆ ต่อเนื่องนานๆ อาจจะไม่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเริ่มออกกำลังกาย หรือคนที่มีปัญหาสุขภาพบางอย่าง ดังนั้น การออกกำลังกายง่ายๆ ที่บ้านก็เป็นทางเลือกที่ดี สามารถทำได้ทุกวัน โดยไม่กระทบกับชีวิตประจำวัน การออกกำลังกายง่ายๆ ที่บ้าน สามารถทำได้หลายอย่าง เช่น การเดิน เป็นการออกกำลังที่ง่ายที่สุด สามารถทำได้ทุกที่ ใช้เวลาไม่นาน เพียงแค่เดินเร็วๆ ประมาณ 30 นาที เป็นประจำทุกวัน ก็จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น การวิ่ง เป็นการออกกำลังที่ช่วยให้เผาผลาญแคลอรีได้ดี ช่วยลดน้ำหนักและลดไขมันได้อย่างรวดเร็ว แต่ควรวิ่งอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บ การว่ายน้ำ เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ช่วยบริหารกล้ามเนื้อทุกส่วน โดยไม่ทำให้ข้อต่อต่างๆ บาดเจ็บ โยคะ เป็นการออกกำลังกายที่เน้นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและผ่อนคลายความเครียด เต้นแอโรบิก […]

ทานข้าวก่อนหรือหลังออกกำลังกายแบบไหนดีกว่ากัน

ทานข าวก อนหร อหล งออกกำล งกายแบบไหนด กว าก น

การทานข้าวหรืออาหารก่อนหรือหลังออกกำลังกายนั้น เป็นเรื่องที่ควรคำนึงถึง เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานและสารอาหารที่เหมาะสมในช่วงเวลาที่เหมาะสม และช่วยให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การทานข้าวก่อนออกกำลังกาย ควรทานอาหารล่วงหน้าก่อนออกกำลังกายประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายมีเวลาในการย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้มีพลังงานเพียงพอในการออกกำลังกาย ควรเลือกทานอาหารที่ย่อยง่ายและมีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ผลไม้ และผัก เพื่อให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีไขมันและโปรตีนสูง เพราะอาจทำให้เกิดอาการท้องอืดและไม่สบายตัวขณะออกกำลังกาย การทานข้าวหลังออกกำลังกาย ควรทานอาหารภายใน 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงหลังออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและสร้างเสริมกล้ามเนื้อ ควรเลือกทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อไก่ ปลา ไข่ และผลิตภัณฑ์จากนม เพื่อช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อและสร้างกล้ามเนื้อใหม่ ควรทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ผลไม้ และผัก เพื่อช่วยเติมเต็มพลังงานที่สูญเสียไปขณะออกกำลังกาย สรุป ทั้งการทานข้าวก่อนหรือหลังออกกำลังกายก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความชอบของแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้วแนะนำให้ทานอาหารล่วงหน้าก่อนออกกำลังกายประมาณ 2-3 ชั่วโมง และทานอาหารภายใน 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงหลังออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานและสารอาหารที่เหมาะสมในช่วงเวลาที่เหมาะสม และช่วยให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ทานข้าวก่อน หรือ หลังออกกำลังกายแบบไหนดีกว่ากัน

ทานข าวก อน หร อ หล งออกกำล งกายแบบไหนด กว าก น

การรับประทานอาหารก่อนหรือหลังออกกำลังกายที่ดีกว่ากันนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เวลาที่ออกกำลังกาย ความหนักของการออกกำลังกาย และเป้าหมายด้านสุขภาพ หากคุณออกกำลังกายในช่วงเช้าตรู่ก่อนอาหารเช้า ร่างกายจะอยู่ในภาวะอดอาหาร (fasted state) ซึ่งช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีกว่าการออกกำลังกายหลังอาหาร ร่างกายจะเริ่มเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตที่สะสมไว้ในกล้ามเนื้อก่อน แล้วจึงค่อยเผาผลาญไขมัน ข้อดีของการออกกำลังกายตอนท้องว่างคือ ร่างกายจะใช้ไขมันเป็นพลังงานหลัก ทำให้เกิดการเผาผลาญไขมันได้มากกว่าการออกกำลังกายหลังอาหาร อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายตอนท้องว่างอาจทำให้คุณรู้สึกหิวและอ่อนแรงได้ ในขณะเดียวกัน การออกกำลังกายหนักหลังจากรับประทานอาหารอาจทำให้เกิดอาการปวดท้องได้ ควรเว้นระยะเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงก่อนออกกำลังกาย หากคุณออกกำลังกายหลังอาหารเช้าหรืออาหารกลางวัน ร่างกายจะมีแหล่งพลังงานจากอาหารที่เพิ่งรับประทานเข้าไปก่อน ซึ่งช่วยให้คุณมีพลังในการออกกำลังกายมากขึ้น สามารถออกกำลังกายได้นานขึ้น และมีโอกาสเกิดการบาดเจ็บน้อยกว่าการออกกำลังกายตอนท้องว่าง ดังนั้น การรับประทานอาหารก่อนหรือหลังออกกำลังกายที่ดีกว่ากันนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น เวลาที่ออกกำลังกาย ความหนักของการออกกำลังกาย และเป้าหมายด้านสุขภาพ แต่การออกกำลังกายหลังอาหารมักเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มพละกำลังและความอดทนในการออกกำลังกาย

ปรับบุคลิกให้ดีเพียงแค่7 ท่า!

ปร บบ คล กให ด เพ ยงแค 7 ท า

ปรับบุคลิกให้ดีเพียงแค่ 7 ท่า! บุคลิกภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อความประทับใจแรกพบและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล หลายคนอาจคิดว่าการปรับบุคลิกภาพเป็นเรื่องยากและใช้เวลานาน แต่ความจริงแล้วเราสามารถปรับบุคลิกภาพให้ดีขึ้นได้เพียงแค่ทำตามท่าทางง่ายๆ ดังนี้ 1. ยืนตัวตรง การยืนตัวตรงเป็นท่าทางที่แสดงถึงความมั่นใจและมั่นคง ช่วยให้บุคลิกภาพดูดีขึ้น วิธีการยืนตัวตรงคือ ยืนให้เท้าชิดกันหรือแยกเล็กน้อย ไหล่ตั้งตรง หน้าอกผาย คอตั้งตรง สายตามองตรงไปข้างหน้า 2. เดินอย่างมั่นใจ การเดินอย่างมั่นใจเป็นท่าทางที่แสดงถึงความมั่นใจและน่าเชื่อถือ วิธีการเดินอย่างมั่นใจคือ เดินให้ไหล่ตั้งตรง หน้าอกผาย คอตั้งตรง สายตามองตรงไปข้างหน้า เดินด้วยจังหวะที่สม่ำเสมอ 3. ยิ้มอย่างเป็นมิตร รอยยิ้มเป็นสิ่งดึงดูดใจและทำให้บุคลิกภาพดูอ่อนโยนขึ้น วิธีการยิ้มอย่างเป็นมิตรคือ ยิ้มให้กว้าง เผยให้เห็นฟันเล็กน้อย ยิ้มด้วยดวงตา 4. จับมืออย่างมั่นคง การจับมืออย่างมั่นคงเป็นท่าทางที่แสดงถึงความมั่นใจและจริงใจ วิธีการจับมืออย่างมั่นคงคือ ยื่นมือไปข้างหน้าให้ตรง จับมือให้แน่นแต่ไม่แน่นเกินไป มองหน้าผู้ที่เราจับมือด้วย 5. นั่งอย่างสุภาพ การนั่งอย่างสุภาพเป็นท่าทางที่แสดงถึงความเคารพและมารยาท วิธีการนั่งอย่างสุภาพคือ นั่งตัวตรง เท้าวางราบกับพื้น มือวางไว้บนตักหรือบนโต๊ะ 6. พูดจาสุภาพ การพูดจาสุภาพเป็นสิ่งสำคัญที่แสดงถึงความมีมารยาทและเคารพผู้อื่น วิธีการพูดจาสุภาพคือ พูดด้วยเสียงที่ชัดเจน ฟังผู้อื่นอย่างตั้งใจ หลีกเลี่ยงการพูดจาหยาบคาย 7. […]

ออกกำลังกายง่ายๆปั้นหุ่นสวยปัง

ออกกำล งกายง ายๆป นห นสวยป ง

ออกกำลังกายง่ายๆปั้นหุ่นสวยปัง การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ เพศไหน หรือรูปร่างแบบไหนก็ตาม การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มความกระชับให้กับร่างกาย ทำให้รูปร่างดูสวยปัง สำหรับใครที่อยากออกกำลังกายแบบง่ายๆ สามารถทำได้ที่บ้าน ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรมากมาย สามารถทำได้ดังนี้ 1. วิ่งเหยาะ การวิ่งเหยาะเป็นการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุด สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย เพียงแค่วิ่งเบาๆ ช้าๆ ประมาณ 30 นาที จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี กระชับกล้ามเนื้อขาและสะโพก 2. กระโดดเชือก การกระโดดเชือกเป็นการออกกำลังกายที่สนุกสนานและช่วยเบิร์นแคลอรีได้ดี เพียงแค่กระโดดเชือกประมาณ 15 นาที จะช่วยให้ร่างกายกระชับทั้งตัว 3. โยคะ โยคะเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย ช่วยให้รูปร่างดูสมส่วน 4. เต้น การเต้นเป็นการออกกำลังกายที่สนุกสนานและช่วยเบิร์นแคลอรีได้ดี เพียงแค่เต้นเบาๆ ประมาณ 30 นาที จะช่วยให้ร่างกายกระชับทั้งตัว 5. ว่ายน้ำ การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ช่วยลดแรงกระแทกต่อข้อต่อ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและกระชับ นอกจากการออกกำลังกายแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ช่วยเสริมสร้างหุ่นสวยปังได้ เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ […]

แจกคลิปออกกำลัง เปลี่ยนแขนล่ำให้เป็นแขนเรียว ก่อนปีใหม่

แจกคล ปออกกำล ง เปล ยนแขนล ำให เป นแขนเร ยว ก อนป ใหม

แจกคลิปออกกำลัง เปลี่ยนแขนล่ำให้เป็นแขนเรียว ก่อนปีใหม่ สำหรับสาวๆ ที่กำลังมองหาคลิปออกกำลังกายเพื่อเปลี่ยนแขนล่ำให้เป็นแขนเรียวสวยก่อนปีใหม่ บอกเลยว่ามาถูกทางแล้ว เพราะในบทความนี้ เราได้รวบรวมคลิปออกกำลังกายที่เน้นบริเวณแขนโดยเฉพาะมาให้คุณได้เลือกชมกันแบบจุใจ คลิปออกกำลังกายเหล่านี้ได้รับการออกแบบโดยเทรนเนอร์มืออาชีพ เพื่อช่วยให้คุณสามารถกำจัดไขมันส่วนเกินและกระชับกล้ามเนื้อบริเวณแขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีการสาธิตท่าออกกำลังกายอย่างชัดเจนและละเอียด เพื่อให้คุณสามารถทำตามได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมีพื้นฐานการออกกำลังกายมาก่อน คลิปออกกำลังกายเหล่านี้ก็เหมาะสำหรับคุณทั้งนั้น เพียงแค่คุณมีเวลาว่างและความมุ่งมั่นในการออกกำลังกาย ก็สามารถเปลี่ยนแขนล่ำของคุณให้กลายเป็นแขนเรียวสวยได้อย่างแน่นอน คลิปออกกำลังกายที่แนะนำ คลิปออกกำลังกายแขนเรียว กระชับใน 10 นาที (คลิ๊กที่นี่) คลิปออกกำลังกายแขนกระชับ ไม่หย่อนคล้อย (คลิ๊กที่นี่) คลิปออกกำลังกายกระชับกล้ามเนื้อแขน (คลิ๊กที่นี่) อย่ารอช้า! รีบเลือกคลิปออกกำลังกายที่คุณชื่นชอบ แล้วเริ่มต้นออกกำลังกายวันนี้ เพื่อให้คุณมีแขนเรียวสวยต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

รวมไอเท็มที่ใช้กู้ผิวไหม้แดดภายใน 2 เดือน

รวมไอเท มท ใช ก ผ วไหม แดดภายใน 2 เด อน

ว่านหางจระเข้ (Aloe vera): เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องสรรพคุณในการรักษาผิวไหม้แดด ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการบวมแดงและอาการเจ็บแสบ พร้อมทั้งเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยอาจใช้ว่านหางจระเข้แบบเจลหรือครีมทาลงบนผิวที่ไหม้แดด น้ำนม (Milk): โปรตีนและไขมันในน้ำนมช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนและระคายเคืองของผิวไหม้แดดได้ โดยอาจชุบผ้าสะอาดลงในน้ำนมเย็นแล้วนำมาประคบที่ผิว หรือผสมน้ำนมกับน้ำผึ้งในอัตราส่วนเท่าๆ กัน แล้วทาลงบนผิวที่ไหม้แดด โยเกิร์ต (Yogurt): มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดด ด้วยโปรไบโอติกที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและช่วยปกป้องผิวจากการติดเชื้อ โดยอาจนำโยเกิร์ตธรรมชาติทาบางๆ บนผิวที่ไหม้แดด แล้วล้างออกหลังจาก 15-20 นาที แตงกวา (Cucumber): อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซี ช่วยลดการระคายเคืองและอาการอักเสบของผิวไหม้แดด พร้อมทั้งคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยอาจนำแตงกวาแช่เย็นมาหั่นเป็นแว่นแล้วนำมาวางบนผิวที่ไหม้แดด หรือคั้นน้ำแตงกวาผสมกับน้ำมันมะพร้าวในอัตราส่วนเท่าๆ กัน แล้วทาลงบนผิว ว่านน้ำ (Centella asiatica): มีสารต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ต้านการอักเสบสูง ช่วยซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดดและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้ดี โดยอาจใช้ว่านน้ำแบบเจลหรือครีมทาลงบนผิวที่ไหม้แดด น้ำมันมะพร้าว (Coconut oil): อุดมไปด้วยกรดไขมันที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดี จึงช่วยลดอาการบวมแดงและอาการเจ็บแสบของผิวไหม้แดด โดยอาจใช้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ทาลงบนผิวที่ไหม้แดด น้ำมันลาเวนเดอร์ (Lavender oil): มีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรียและช่วยให้ผิวสงบลง ช่วยลดอาการระคายเคืองและอาการปวดแสบปวดร้อนของผิวไหม้แดดได้ โดยอาจผสมน้ำมันลาเวนเดอร์ 2-3 หยดลงในน้ำอาบ หรือหยดน้ำมันลาเวนเดอร์ลงบนผ้าสะอาดแล้วนำมาประคบที่ผิวที่ไหม้แดด

ลดหุ่นสไตล์คนขี้เกียจ สัดส่วนลงทุกส่วน

ลดห นสไตล คนข เก ยจ ส ดส วนลงท กส วน

การลดหุ่นสไตล์คนขี้เกียจ เป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ไม่ต้องออกกำลังกายหนัก ไม่ต้องอดอาหาร แต่ยังคงได้ผลลัพธ์ที่ดี ด้วยวิธีการง่ายๆ ดังนี้ 1. ทานอาหารที่มีโปรตีนสูงและไขมันต่ำ เช่น อกไก่ ปลา นม ไข่ ให้ความรู้สึกอิ่มนานกว่าอาหารอื่นๆ ช่วยลดความอยากอาหารและยังช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันอีกด้วย 2. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่ม ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้นและยังช่วยลดความอยากอาหารอีกด้วย 3. ทานผักและผลไม้ให้มาก ในผักและผลไม้มีไฟเบอร์สูง ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ลดอาการท้องผูกและช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน 4. นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและยังช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความหิวและความอิ่ม 5. หลีกเลี่ยงอาหารขยะและเครื่องดื่มหวาน อาหารประเภทดังกล่าวมีปริมาณแคลอรี่สูงและไม่มีสารอาหารอะไรเลย ควรรับประทานให้น้อยที่สุดดีที่สุด 6. ปรุงอาหารเองที่บ้าน การปรุงอาหารทานเองที่บ้าน ช่วยควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทานได้ และยังสามารถเลือกใช้วัตถุดิบที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพได้อีกด้วย 7. เคลื่อนไหวร่างกายบ้าง ถึงแม้จะไม่ได้ออกกำลังกายหนัก แต่ก็ควรเคลื่อนไหวร่างกายบ้าง เช่น การเดิน เดินขึ้นลงบันได เล่นโยคะ หรือยืดเส้นยืดสาย ซึ่งก็สามารถช่วยเผาผลาญแคลอรี่และลดน้ำหนักได้