พิชิตบาการเผาผลาญไขมัน 8 เวลา คือ หลักการการเผาผลาญไขมันที่เน้นการกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันตลอดเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง โดยแบ่งออกเป็น 8 ช่วงเวลา ดังนี้ ช่วง 1: ตื่นนอน ทันทีที่ตื่นนอน ให้ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว เพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไประหว่างนอนหลับ จากนั้นให้ออกกำลังกายเบาๆ สัก 10-15 นาที เช่น เดินเร็ว ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เป็นต้น การออกกำลังกายในช่วงนี้จะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ช่วง 2: รับประทานอาหารเช้า ควรรับประทานอาหารเช้าให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นในการเริ่มต้นวันใหม่ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เช่น ขนมปังขาว ข้าวขาว น้ำอัดลม เป็นต้น เพราะจะทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงอย่างรวดเร็วและส่งผลให้รู้สึกหิวบ่อยขึ้น ช่วง 3: รับประทานอาหารกลางวัน ควรรับประทานอาหารกลางวันที่ย่อยง่ายและมีแคลอรีต่ำ เช่น ผัก ผลไม้ โปรตีน เป็นต้น หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอด […]
Lưu trữ Danh mục: th
“ไอเทมลดแขน 10 นิ้วจาก 14 นิ้วภายใน 1 อาทิตย์” คำเตือน! ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างไปในแต่ละบุคคล หากคุณกำลังมองหาวิธีลดขนาดแขนให้เล็กลงและกระชับยิ่งขึ้นภายในเวลาเพียง 1 อาทิตย์ ไอเทมนี้ที่เราจะมาแนะนำนี้ อาจเป็นสิ่งที่คุณกำลังตามหา ไอเทมลดแขนนี้ คือ เส้นผ้ารัดแขน (Arm Shaper) เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่ต้องการลดขนาดของต้นแขนและกระชับกล้ามเนื้อบริเวณแขนให้ได้รูปสวย ด้วยวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถสวมใส่ได้สบาย ไม่รู้สึกอึดอัด มีคุณสมบัติช่วยกระชับกล้ามเนื้อแขนและลดเซลล์ไขมัน ทำให้แขนของคุณดูเล็กลงภายในระยะเวลาอันสั้น วิธีใช้ เส้นผ้ารัดแขนนี้ง่ายมาก เพียงแค่สวมใส่ขณะออกกำลังกายหรือทำกิจวัตรประจำวัน โดยควรสวมใส่อย่างต่อเนื่องประมาณ 8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการลดขนาดแขนได้ดียิ่งขึ้น หากคุณต้องการผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ควรควบคุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงและน้ำตาลสูง รวมถึงการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น การวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ เป็นต้น ข้อควรระวังในการใช้ เส้นผ้ารัดแขน ควรเลือกขนาดของ เส้นผ้ารัดแขน ที่เหมาะสมกับขนาดแขนของตนเอง เพื่อให้เกิดการกระชับที่พอดี ไม่ควรสวมใส่ เส้นผ้ารัดแขน ขณะนอนหลับ เนื่องจากอาจทำให้เกิดการไหลเวียนโลหิตไม่สะดวก หากเกิดอาการระคายเคืองหรือมีผื่นขึ้นที่ผิวหนัง ควรหยุดใช้ […]
ขึ้นอยู่กับเป้าหมายในการออกกำลังกายของคุณและต้องการได้รับประโยชน์อะไรจากการออกกำลังกายนั้นๆ เช้าตรู่ (Before breakfast หรือ fasted cardio): เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเผาผลาญไขมันได้มากขึ้นและรวดเร็ว การออกกำลังกายขณะท้องว่างมีประสิทธิภาพในการเผาผลาญแคลอรี่มากกว่าการออกกำลังกายหลังอาหาร ในขณะที่ร่างกายกำลังอดอาหาร ระดับอินซูลินจะต่ำกว่าปกติ ทำให้ร่างกายสามารถดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายขณะท้องว่างอาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือคลื่นไส้ได้ในบางคน ช่วงกลางวัน (Late morning/early afternoon): ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น มีความตื่นตัวทางร่างกายและจิตใจสูงสุด การออกกำลังกายในช่วงนี้มีความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บได้น้อยลง มีพละกำลังและความทนทานมากขึ้น รวมถึงช่วยให้ระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้น ช่วงเย็น (Afternoon/early evening): เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายมีพละกำลังสูงสุดจากการรับประทานอาหารมื้อหลักในช่วงกลางวัน เหมาะสำหรับการออกกำลังกายแบบหนักและความเข้มข้นสูง เช่น การยกเวท การวิ่งเร็ว หรือการปั่นจักรยาน เป็นเวลาที่คำนึงถึงความปลอดภัยในการออกกำลังกายเพราะมีแสงไฟให้ความสว่าง หรือใช้เส้นทางออกกำลังกายที่มีการจราจรหนาแน่น ช่วงก่อนนอน (Late evening/night): ช่วยให้การเผาผลาญพลังงานในระหว่างการนอนหลับมีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมาะสำหรับการออกกำลังกายแบบเบาและผ่อนคลาย เช่น การเดินช้าๆ การยืดกล้ามเนื้อ
4 ท่าออกกำลังกายลดต้นแขนแบบง่ายๆ ใน 4 นาที ออกกำลังกายเป็นประจำนั้นดีต่อสุขภาพ แต่ทราบหรือไม่ว่าการออกกำลังกายบางท่าช่วยให้คุณลดไขมันกระชับต้นแขนได้แบบง่ายๆ ใครที่กำลังประสบปัญหาต้นแขนใหญ่หรือต้นแขนหย่อนคล้อย ลองทำตามท่าออกกำลังกายลดต้นแขนท่าง่ายๆต่อไปนี้ สม่ำเสมอเป็นเวลา 4 นาที รับรองต้นแขนที่เคยใหญ่จะลดลงแล้วกระชับอย่างแน่นอน เริ่มต้นด้วยการวอร์มอัพใน 1 นาทีแรก ด้วยการหมุนข้อไหล่ไปทั้งด้านหน้าและด้านหลังสลับกัน โดยทำ 10 ครั้ง ทั้งทั้งข้าง พร้อมกับออกแรงตึงแขนและเหนี่ยวไหล่เข้าหากัน จะช่วยบริหารโดยรอบต้นแขนและลดอาการปวดตึงได้เป็นอย่างดี ท่าที่ 1 : ต้นแขนไร้ไขมันด้วย Bird Dog (1 นาที) เริ่มต้นด้วยการตั้งท่าคลานเข่า ยืดแขนทั้ง 2 ข้างไปข้างหน้า เหยียดตรงขนานกับหัวเข่า จากนั้นสลับการยกแขนและขาทีละข้างไปพร้อมกัน การวางตำแหน่งศีรษะควรอยู่ในระดับตรงกันกับลำตัว เพื่อเป็นการกระชับต้นแขนและช่วยให้ลำตัวไม่สั่นไหว ทำซ้ำข้างละ 10 ครั้ง ท่าที่ 2 : ท่าคลิปบอร์ด ลดต้นแขน เฟิร์มไหล่ (1 นาที) เริ่มต้นด้วยการยืนตัวตรง เท้าทั้ง 2 ข้างกว้างเท่าหัวไหล่ ยกแขนด้านขวาเหยียดขึ้นไปเหนือหัว […]
การตื่นเช้าพร้อมกับแสงแรกของวันใหม่มีข้อดีมากมายอย่างที่คุณอาจจะคาดไม่ถึง จากการศึกษาหลายๆชิ้นได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เหนือกว่าของผู้ที่ตื่นเช้า คุณอาจสงสัยว่าตื่นเช้าแล้วได้ประโยชน์อย่างไร? มีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น เมื่อคุณตื่นเช้าขึ้น คุณจะมีเวลามากขึ้นในการเตรียมตัวสำหรับวันของคุณ ซึ่งหมายความว่า คุณจะมีเวลาดื่มกาแฟอย่างช้าๆ อ่านหนังสือพิมพ์ หรือออกกำลังกายบางครั้งก่อนวันใหม่จะเริ่มต้นขึ้นจริงๆ คุณจะไม่มีอะไรทำให้รู้สึกเครียดและเร่งรีบ ไม่อารมณ์เสียที่ต้องตื่นสายจนเกือบจะสาย ฟื้นฟูสมอง การนอนดึกอาจทำให้สมองของคุณอ่อนล้าและไม่สามารถทำงานได้ดีเท่าที่ควร การตื่นเช้าช่วยให้คุณมีเวลาที่สมองของคุณได้ฟื้นฟูและเตรียมพร้อมสำหรับวันใหม่ คุณจะรู้สึกสดชื่น มีสมาธิ และมีพลังมากกว่าตลอดทั้งวัน มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น การตื่นเช้ายังสามารถช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ได้อีกด้วย การศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ตื่นเช้ามักมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มากกว่าผู้ที่นอนดึก ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น การตื่นเช้าอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณได้อีกด้วย การศึกษาพบว่าผู้ที่ตื่นเช้ามักมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่าผู้ที่นอนดึก ไม่ว่าจะเป็นงานที่สำนักงานหรืองานบ้าน มีสุขภาพดีขึ้น การตื่นเช้าในทุกวันอาจช่วยปรับปรุงสุขภาพโดยรวมของคุณได้เช่นกัน การศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ตื่นเช้ามักมีสุขภาพที่ดีขึ้นโดยรวม มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงกว่า มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเรื้อรังต่างๆน้อยลง เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญของการตื่นเช้าคือ ได้เห็นความงามของธรรมชาติ ที่พระอาทิตย์ขึ้น
ครีมว่านหางจระเข้ ครีมว่านหางจระเข้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการบรรเทาผิวไหม้แดด เนื่องจากมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นและลดการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการแสบและร้อนของผิวไหม้แดดได้เป็นอย่างดี โยเกิร์ต โยเกิร์ตมีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ ที่ช่วยปรับสภาพ pH ของผิวให้สมดุล ช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนและผื่นแพ้ได้ นอกจากนี้ โยเกิร์ตยังมีส่วนผสมของโปรไบโอติกส์ ซึ่งช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติให้แข็งแรง น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะพร้าวเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการบำรุงผิวไหม้แดด เนื่องจากมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นสูง ช่วยลดการระคายเคืองและบรรเทาอาการอักเสบได้ น้ำมันมะพร้าวซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่าย จึงไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์มีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ เช่นเดียวกับโยเกิร์ต จึงช่วยปรับสภาพ pH ของผิวให้เป็นกลาง รวมทั้งยังมีคุณสมบัติในการต่อต้านแบคทีเรีย ช่วยป้องกันการติดเชื้อบนผิวไหม้แดดได้ ชาเขียว ชาเขียวมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากการทำลายของรังสียูวีได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ชาเขียวยังมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบและบรรเทาอาการแสบร้อนของผิวไหม้แดดได้อีกด้วย น้ำมันลาเวนเดอร์ น้ำมันลาเวนเดอร์มีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นและบรรเทาอาการอักเสบได้ดี ช่วยลดอาการแสบร้อนและผื่นแพ้บนผิวไหม้แดดได้ นอกจากนี้ น้ำมันลาเวนเดอร์ยังมีกลิ่นหอมที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ว่านหางจระเข้สด ใบว่านหางจระเข้สดมีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการแสบร้อนและคันของผิวไหม้แดดได้ดีเยี่ยม วิธีใช้ เพียงแค่ปอกเปลือกใบว่านหางจระเข้แล้วนำเนื้อในมาทาบริเวณผิวที่ไหม้แดด ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า
ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ: น้ำช่วยขับสารพิษในร่างกายและลดการบวมน้ำ ดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวันเพื่อช่วยลดขนาดขา ลดการบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูง: โซเดียมสามารถกักเก็บน้ำไว้ในร่างกายได้ ดังนั้นจึงควรจำกัดการบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารสำเร็จรูป อาหารจานด่วน และอาหารแช่แข็ง รับประทานอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง: โพแทสเซียมช่วยต้านทานการบวมน้ำ รับประทานอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย มะเขือเทศ และมันฝรั่ง ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ: การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอช่วยเผาผลาญแคลอรี่และลดไขมันส่วนเกิน รวมถึงช่วยลดไขมันที่สะสมในบริเวณขา บริหารกล้ามเนื้อขา: การบริหารกล้ามเนื้อขาช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและกระชับขึ้น ทำให้ขาของคุณดูเล็กและได้รูปมากขึ้น นวดขา: การนวดขาช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ลดการบวมน้ำและไขมันส่วนเกิน ใช้ผลิตภัณฑ์กระชับสัดส่วน: ผลิตภัณฑ์กระชับสัดส่วนบางชนิดสามารถช่วยลดไขมันส่วนเกินและทำให้ผิวหนังกระชับขึ้นได้ แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย สวมชุดกระชับสัดส่วน: ชุดกระชับสัดส่วนสามารถช่วยกระชับกล้ามเนื้อและลดการบวมน้ำได้ แต่อย่าสวมชุดกระชับสัดส่วนเป็นเวลานานเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้
หนังศีรษะเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่สำคัญมาก แต่บางครั้งเราก็ละเลยที่จะดูแลรักษาหนังศีรษะอย่างถูกวิธี ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆ ดังนี้ รังแค รังแคเป็นปัญหาหนังศีรษะที่พบบ่อยที่สุด โดยเกิดจากการที่หนังศีรษะแห้งและเป็นขุย เนื่องจากการขาดความชุ่มชื้นและการดูแลรักษาที่ไม่ถูกวิธี หนังศีรษะแห้ง การขาดความชุ่มชื้นอาจทำให้หนังศีรษะแห้งและหลุดลอกได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการคันและระคายเคือง หนังศีรษะมัน การผลิตน้ำมันส่วนเกินจากต่อมไขมันในหนังศีรษะอาจทำให้หนังศีรษะมันได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาผมร่วงได้ หนังศีรษะเป็นสิว สิวอาจเกิดขึ้นที่หนังศีรษะได้เช่นกัน เนื่องจากการอุดตันของรูขุมขนหรือการติดเชื้อแบคทีเรีย โรคผิวหนังบางชนิด โรคผิวหนังบางชนิด เช่น กลากและโรคสะเก็ดเงิน อาจทำให้เกิดปัญหาที่หนังศีรษะได้เช่นกัน เพื่อป้องกันปัญหาหนังศีรษะต่างๆ เราควรดูแลรักษาหนังศีรษะอย่างถูกวิธี ดังนี้ หมักน้ำมันมะกอก ทาบำรุงหนังศีรษะ ทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วสระออก ใช้แชมพูที่เหมาะกับสภาพหนังศีรษะ สระผมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หลีกเลี่ยงการเกาหนังศีรษะแรงๆ หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อหนังศีรษะ เช่น ผัก ผลไม้ และปลาแซลมอน หากมีปัญหาหนังศีรษะใดๆ ที่รุนแรงหรือเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง
1 นาที ลดไขมัน ปีกหลัง รักแร้ปลิ้น ต้นแขนใหญ่ วิธีออกกำลังกายง่ายๆ ใช้เวลาเพียง 1 นาทีทุกวัน ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณปีกหลัง รักแร้ปลิ้น และต้นแขนแกว่งได้ในเวลาอันรวดเร็ว แถมได้กล้ามเนื้อมาแทนที่ไขมันอีกด้วย ขั้นตอนการบริหารร่างกาย ยืนเท้าแยกให้กว้างกว่าหัวไหล่เล็กน้อย มือแนบำลังข้างลำตัว ย่อตัวลงเล็กน้อยเหมือนเตรียมวิ่ง จากนั้นใช้แขนทั้งสองข้างผลักตัวขึ้นพร้อมกับยกเข่าขึ้นทั้งสองข้าง แต่ให้หัวเข่าของคุณไม่เลยปลายเท้า หากเลย แสดงว่าคุณย่อตัวเยอะเกินไป นอกจากนี้ยังช่วย鍛บริเวณหน้าท้องได้อีกด้วยนะ จากนั้นกระโดดขึ้นเหนือศีรษะ ยกแขนเหยียดตรงไปข้างบนพร้อมกับยกขาเหยียดตรง مواขนานกับลำตัว ในท่านี้จะเหมือนคุณกำลังชี้ไปที่ดวงดาวเลยล่ะ กระโดดลง แล้วทำซ้ำเวลารวม 1 นาที แนะนำ ให้ออกกำลังกายแบบนี้ในช่วงเช้าก่อนอาบน้ำ และควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง หรือทุกวันเลยก็ได้ ถ้าคุณชอบ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้โชว์เนื้อแขนและแผ่นนหลังได้อย่างมั่นใจแล้วล่ะ
การรับประทานอาหารก่อนออกกำลังกาย ข้อดี: ให้พลังงานแก่ร่างกายในการออกกำลังกาย ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องและมีสมาธิกับการออกกำลังกายมากขึ้น ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น ข้อเสีย: อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวและท้องอืดหากรับประทานอาหารมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องหรือคลื่นไส้หากรับประทานอาหารที่ย่อยยาก อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะหรือหน้ามืดหากรับประทานอาหารที่ให้พลังงานต่ำเกินไป การรับประทานอาหารหลังออกกำลังกาย ข้อดี: ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องและลดความอยากอาหาร ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น ข้อเสีย: อาจทำให้รู้สึกง่วงนอนหากรับประทานอาหารมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องอืดหากรับประทานอาหารที่ย่อยยาก อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะหรือหน้ามืดหากรับประทานอาหารที่ให้พลังงานต่ำเกินไป ข้อแนะนำ ควรรับประทานอาหารก่อนออกกำลังกายประมาณ 1-2 ชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายมีเวลาในการย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหาร ควรรับประทานอาหารที่ย่อยง่ายและให้พลังงานสูง เช่น ข้าวกล้อง ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน หรือธัญพืช หลังออกกำลังกายควรรับประทานอาหารภายใน 30-60 นาทีเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว ควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต เช่น ไข่ เนื้อไก่ ปลา ข้าวกล้อง หรือขนมปังโฮลวีต ควรดื่มน้ำเปล่ามากๆ ทั้งก่อนออกกำลังกายและหลังออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ